วันนี้ตื่นเช้ามาแบบหนืดๆสืบเนื่องจากอาการโดนของดำเมื่อวาน มาที่นี่ค่ะ วัดไหล่หินหลวงที่ลำปาง
จะเลือกมาทั้งที จะเป็นวัดธรรมดาไปไม่ได้ใช่ไหมคะ ที่นี่เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในลำปางเชียวนะคะ
ซึ่งแต่เดิมนั้นจะมีปั้นลมแบบภาคกลาง ต่อมาได้รับการบูรณะโดยกรมศิลป์ทำให้ปั้นลมเดิมนั้นกลายเป็นแบบทางภาคเหนือดังที่เห็นค่ะ สัดส่วนซึ่งดูดีๆ จะเป็นแบบไทยเดิมเลยนะคะ มีการเล่นระดับจากภายนอก เผยให้เห็นพื้นที่ภายในทีละนิด เชื้อเชิญให้เราเข้าไปเหลือเกินค่ะ
ช่างรุ่นเก่านั้นได้สร้าง ด้านนอกจะเห็นกำแพงแก้วเล็กๆ เชื้อเชิญให้เรามองเข้าไปพบวิหาร ซึ่งเป็นระเบียบแบบล้านนาแท้ มีการทอนสัดส่วน แตกต่างกับช่างรุ่นใหม่ที่คิดถึงแต่ประโยชน์ใช้สอยเพียงอย่างเดียวแต่ไม่ได้คำนึงถึงความสัมพันธ์ของอาคารข้างเคียง ทำให้ลดคุณค่าโบราณสถานอย่างไม่รู้ตัว วิหารด้านหลังนั้นถึงแม้จะมีขนาดใหญ่ แต่ใช้วัสดุเดียวกัน ระเบียบโครงสร้างเดียวกัน จึงทำให้เกิดความกลมกลืนกันขึ้น ด้านหลังมีดงยาง ลำห้วย ลานดินลานทราย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไทยแน่นอนค่ะ และเมื่อเราได้เข้าไปแล้วจะพบซุ้มประตูที่ล้อกันกับอาคารและความเงียบสงบของวิหารคด
ร่าเริงอยู่ที่วัดเก่าแก่แห่งนี้แล้ว เราต้องมาที่นี่ต่อค่ะ พลาดไม่ได้กับ วัดพระธาตุลำปางหลวง
ที่นี่นะคะ ตัวพระธาตุจะอยู่บนเนิน แต่ที่เราเห็นจากภายนอกเป็นการเรียงอิฐนั้นแต่เดิมจะฉาบปูนหรือไม่ก็ไม่ทราบได้ค่ะ แต่อย่างที่เราเห็นก็จะเผยให้เห็นวัสดุการเรียงอิฐโดยรอบ มีทางเข้าได้สามทาง
ด้านหน้าจะยื่นบันไดออกมาหาลานเป็นตัวเชื่อมระหว่างลานภายนอกขึ้นมาสู่บันได ที่มีการสอบเข้าเป็นระยะๆ เข้าไปสู่กำแพงแก้ว ตามตำนานเดิมมีความเชื่อว่า ชุมชนที่ตั้งเป็นบ้านเมืองพระพุทธเจ้าล้วนได้เสด็จมาแล้วทั้งนั้น ทุกเมืองจะมีพระธาตุประจำจังหวัดอยู่ และที่วัดพระธาตุลำปางหลวงได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ ประตูนั้นเป็นลวดลายเครือเถาซึ่งเป็นลายล้านนาแท้
ภายในวิหารพระธาตุลำปางหลวง ไม่มีการตีฝ้าเพดานจึงเผยให้เห็นโครงสร้างด้านบน ซึ่งช่องด้านบนของวิหารหลวงกับวิหารเล็กจะเกิดการมองเห็นที่เลื่อนไหลเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน
เป็นจุดเด่นของที่นี่เลยค่ะ ในการเล่นการเลื่อนไหลของพื้นที่ภายในอาคาร แค่เปลี่ยนจุด space ก็เปลี่ยนค่ะ ;) แถมที่มากกว่านั้นเวลาไหว้เจดีย์นะคะ จะมีบทสวดมนต์ในแต่ละทิศด้วยค่ะ
แลไปด้านขวามือของท่านจะพบธรรมมาสตามอย่างล้านนา
ออกมาสู่โลกกว้างทั้งที มี2วัดได้อย่างไรกันคะ ในวันนี้ อย่าให้เสียเวลาค่ะ เรามาต่อกันที่นี่เลยค่ะ วัดปงยางคกที่นี่นั่นเอง
ที่นี่มีความสำคัญอย่างไรหรือคะ? สำคัญสิคะ มันต้องสำคัญแน่นอน เพราะที่นี่มีความเกี่ยวเนื่องกับบรรดาต้นตระกูล ณ เชียงใหม่ ณ ลำปาง ทั้งปวง
ที่สามารถปลดแอกล้านนาจากพม่าได้เป็นอิสระเสรี สัญลักษณ์ของวัดนี้จะมีลานโพธิ์ที่มาคู่กันกับไม้ค้ำอีกแล้วค่ะ เข้ามาสู่ด้านในจะพบวิหารพระแม่เจ้าจามเทวี เมื่อเห็นดังนั้นเราอย่าได้รอช้าค่ะ
เคลื่อนตนเข้าไปสู่ด้านในทันที ซึ่งโครงสร้างภายในตามแบบล้านนา ไม่มีการตีฝ้าเพดาน ชิ้นส่วนต่างๆมีลายกรุในทุกชิ้นส่วนโครงสร้างด้วยค่ะ
อาคารโดยรอบ "กู่จ้างนบ"
จากนั้นเราจะกลับแล้วหรือคะ ไม่ได้ค่ะ อาทิตย์ยังไม่ตกดินเลย เรามาแวะที่นี่กันก่อนดีกว่า บ้านเก่าของใครสักคนที่อำเภอเกาะคา
อะไรดึงดูดให้เรามาที่นี่คะ?
เราลงมาด้วยแรงดึงดูดแน่นอนค่ะ เพราะเมื่อลงมาถึงอาจารย์จิ๋วในตำนานของเราได้พุ่งตรงมาถ่ายรูปจากด้านนอก แต่ยังค่ะ มันยังไปเต็มที่ เข้าไปในบ้านดีกว่า
ในเวลาต่อมาเราจึงเห็นอาจารย์จิ๋วงัดกลอนพยายามเข้าบ้านในลักษณะนี้
someone said: เจ้าของบ้านเป็นตำรวจครับอาจารย์
อาจารย์จิ๋วในตำนาน said ด้วยเสียงอันดัง: อย่าไปสนใจ..
รุ่นใหญ่ค่ะ รุ่นใหญ่ :)
เจ้าของบ้านแอบเห็นดังนั้น เกรงว่ากลอนจะพังเสียก่อนเลยมาเปิดให้เองดีกว่า จากการเปิดประตูรับคนแปลกหน้าในครั้งนี้ผลที่ได้คือโดนบุกค่ะ
กระจายตัวทั่วทุกสารทิศ ถ่ายรูปประหนึ่งบ้านตน แต่เราก็ขอก่อนแล้วจริงไหมคะ ?(ในขณะที่ขาก้าวเข้าบุกบ้านด้วย)
บ้านที่มีแรงดึงดูดขนาดนี้คิดหรือคะว่าจะเป็นบ้านธรรมดา บ้านนี้เห็นเป็นบ้านเก่าอย่างนี้นะคะ แต่มีความพิเศษนั่นคือ มันไม่ใช่แบบล้านนาแท้ค่ะ
อ้าว! ไม่ใช่ล้านนาแท้แล้วมาดูทำไมคะ ?
ก็เพราะไม่ใช่ล้านนาแท้สิคะ ถึงได้แสดงถึงการเป็นยุคที่ช่างได้รับอิทธิพลจากตะวันตก แต่ยังคงระเบียบบางส่วนของบ้านไทยไว้ คือการมีใต้ถุนอเนกประสงค์เช่นนี้
ซึ่งแสดงถึงการที่ช่างได้รับเอาแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกเข้ามาสู่อาคารแบบดั้งเดิมค่ะ
ปรากฎทางเข้าสองทาง แถมอีกทางยังมีหลังคาเชื่อมกันระหว่างทั้งสองเรือนอีกด้วย
ป้ายชื่อนี่สังเกตนี่มีทุกบ้านเลยค่ะ
ออกมาเจอครัวเล็กๆด้านหลัง
ปู่จิ๋วsketch แปลนบ้านหลังนี้อยู่ค่ะ
ตามแบบบ้านไทยที่มีลานให้เล่นค่ะ (เล่นอะไรอันนี้ไม่บอก รู้กันเองค่ะ)
เด็กsketch แปลนบ้าง
สไตล์celeb เห็นกล้องเป็นไม่ได้ค่ะ
ย้ายร่างมาบ้านอีกหลังค่ะ เป็นบ้านขนาดเล็กๆ เราก็มาทำการถ่ายรูปเก็บข้อมูลลักษณะบ้านพื้นถิ่น
แต่ดูสิคะเราพบกับอะไร?
ใต้ถุนอเนกประสงค์ที่คุ้นเคย เดินสำรวจมาเรื่อยๆเราจะพบกับครัว ที่มีผักสวนครัวรั้วกินได้อีกแล้วค่ะ
ที่รดน้ำผักภูมิปัญญาคนที่นี่ค่ะ เพราะต้องใช้ตักน้ำมาจากบ่อ พอได้น้ำก็สาวเสานั่นขึ้นมาแล้ว สาด!ไปยังแปลงผักข้างๆ
ย้ายร่างมาอีกหลังค่ะ ที่นี่มีหลายหลังในรั้วเดียวกันนะคะ
หน้าต่างสัดส่วนเตี้ยๆ กับลานกรวดเป็นทางเดินเข้ามาค่ะ เดินมาเรื่อยๆเราก็มาพบกับสิ่งนี้ค่ะ
มันคือฝาไหลนั่นเอง
อาจารย์น้ำ said: ฝาไหล! ไหลไปไหนครับ?
อย่าได้คิดว่าอาจารย์น้ำกวนไปวันๆนะคะ ว่าแล้วอาจารย์น้ำก็แสดงคำตอบบัดเดี๋ยวนี้ !
ไหล ไหล ไหล ไหลไปปิดช่องระบายอากาศเลยค่ะ
เพราะตรงนี้พื้นที่ข้างในเป็นห้องนอนค่ะ ตอนกลางวันฝาไหลก็ไหลเปิดระบายอากาศไว้ ถ้าจะปิดก็ไหลปิดนะคะ
เดินเล่นเริงร่าประหนึ่งบ้านตน
ปิดท้ายก่อนตะวันตกดินด้วยรีสอร์ทหลังเล็กๆงามๆที่นี่เลยค่ะ บ้านสวนอรพิน
เจ้าของเดิมค้าของเก่ามาก่อนจึงทำให้มีไม้เก่ามากมาย อีกทั้งยังมีช่างเป็นของตนเองอีก
ก็เลยจัดการทำเฟอร์นิเจอร์ขายเอง เอาไม้เก่ามาทำเป็นรีสอร์ทเล็กๆ ค่อยๆขยับขยายไปเรื่อยๆค่ะ
ด้านข้างจะพบกับทุ่งนากว้างใหญ่
ทางเข้าเป็นทางเดินไม้เล็กๆน่ารักค่ะ แทรกสอดท่ามกลางร่มไม้ใหญ่
ด้านหลังเป็นที่ทำงานของช่างค่ะ ลานหญ้าน่าวิ่งเล่นอีกแล้ว ;)
ใช้วัสดุธรรมชาติเพื่อบรรยายกาศที่กลมกลืนและร่มรื่นน่ารักค่ะ
เฟอร์นิเจอร์ที่เอาเศษไม้มาทำขึ้นใหม่เองค่ะ ลองนั่งแล้ว เห็นอย่างนี้ไม่เจ็บนะคะ สบายด้วยซ้ำ
ภายในห้องพักเล็กๆ ซึ่งพยายามจะขยายให้มีหลายห้องในอนาคต
อาทิตย์ตกดินแล้วค่ะ เราคงต้องกลับแล้ว ก่อนกลับที่พลาดไม่ได้เช่นเคยค่ะ มาขอแวะเติมเสบียงลงท้องหน่อย
ที่ร้านราดหน้าในซอยใกล้ๆตลาดโต้รุ่งเมืองลำปาง เห็นอาจารย์แห่กันมา เลยขอตามกระแสบ้างค่ะ (แอบบอกว่า อย่าสั่งอย่างอื่นที่ไม่ใช่ราดหน้าค่ะ รอนานมากกกกก)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น